วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2559

มีเงินก้อนจะซื้อบ้านหรือซื้อรถก่อนดี ?


       คนทุกคนล้วนมีความฝันที่จะมีบ้านหลังใหญ่โต มีสนามหญ้าและสวนดอกไม้หน้าบ้าน อยากมีรถสปอร์ตขับอย่าง Mercedez Benz Audi Lamboghini หรือ Ferrari แต่ก็จนปัญญาที่จะซื้อ แล้วเราจะทำอย่างไรดีที่ความฝันของเราจำเป็นจริงเสียที ? เราจะเข้าไปเล่นการเมืองแล้วคอร์รัปชั่นดีมั๊ย ?(ไม่ดีแน่นอนใช่ม๊าาา...)

       ผมเคยถามรุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งเขาเป็นคนกรุงเทพ ถ้าพี่มีเงิน 1 ล้านบาทพี่ว่าจะซื้อบ้านหรือรถก่อนดี พี่ก็ตอบกลับมาว่า ก็ต้องซื้อบ้านก่อนดิ ไม่งั้นจะมีที่จอดรถได้ยังไง คำตอบของพี่ทำผมอึ้งไปสักพัก แล้วก็กลับมาคิดว่ามันก็จริงแฮะ แต่ถ้าเรามีบ้านอยู่แล้วก็นับว่าคุณเป็นคนที่โชคดีมากๆคนหนึ่ง ที่พ่แม่ได้มอบมรดกอันแสนล้ำค่านี้ไว้ให้ คุณก็สามารถตัดสินใจซื้อรถได้เลย ไม่มีปัญหา ซึ่งลองถามว่าผู้คนในปัจจุบันอยากได้อะไรมากกว่ากัน ก็คงจะตอบว่าอยากได้รถก่อน ด้วยเหตุผลง่ายๆ คือ เพราะไม่อยากไปใช้ขนส่งสาธารณะ มันไม่มีความส่วนตัว ไม่อยากต้องเบียดเสียดคนที่มาทำงานตอน 8.00น. ใน BTS หรือ MRT

       แต่เชื่อหรือไม่ว่าถ้าคุณไปซื้อรถด้วยความคิดที่ว่าอยากมีความส่วนตัว มันคงเป็นความคิดที่เอาแต่ใจเกินไปหน่อย คุณลองคำนวณค่าใช้จ่ายจากการใช้ขนส่งสาธารณะต่อวันกับใช้รถส่วนตัว คุณจะพบว่าการใช้รถส่วนตัวนั้นกินค่าใช้จ่ายของคนเรามากกว่ามาก แต่เพราะเราไม่ได้จ่ายในค่าใช้จ่ายเหล่านั้นทุกวัน เช่น ค่าน้ำมัน ค่าเสื่อมของรถ ค่าเปลี่ยนอะไหล่ มันจึงทำให้คนเราคิดว่าการใช้รถส่วนตัวนั้นประหยัดกว่า

       รถยนต์นั้นจะเสื่อมค่าลงทุกวัน โดยเฉลี่ยเราจะใช้รถได้อายุ 5-10 ปี แต่ถ้าเราซื้อบ้านก่อน จะพบว่าบ้านมีแต่ราคาจะเพิ่มขึ้นทุกวัน ด้วยการที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภทหนึ่ง สาเหตุที่สำคัญที่ผมคิดว่ามันมีส่วนต่อราคาสินทรัพย์เหล่านี้ คือ การเจริญเติบโตของบ้านเมือง การขยายตัวของประชากร ยิ่งความเจริญแผ่ขยายมาจากเมืองใหญ่ๆ ราคาสินทรัพย์ทั้งในเมืองหรือตามชานเมืองก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ฉะนั้นการซื้อบ้านก่อนจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าแน่นอนครับ ซื้อบ้านในวันนี้ไม่แน่ว่าในอนาคต 20 ปีข้างหน้าราคาบ้านอาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเลยก็ได้ กลายเป็นได้รับประโยชน์ 2 เด้งจากการที่ได้อยู่อาศัยในบ้าน กับ ผลประโยชน์เมื่อเราขายบ้านก็ได้ผลตอบแทนเท่าตัว

     


     

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น