เชื่อว่าเราทุกคนล้วนฝันอยากจะมีบ้านหลังใหญ่สวยงาม มีพื้นที่กว้างๆสำหรับเดินเล่นกันทุกคน แต่กว่าเราจะเก็บเงินเพื่อซื้อบ้านได้นั้นย่อมต้องใช้เวลาอย่างมาก ซึ่งบางคนอาจจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อซื้อบ้านหลังเดียว ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากพื้นที่โลกของเรามีอยู่อย่างจำกัด แต่ประชากรบนโลกเริ่มทวีเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ จึงเป็นเหตุให้เกิดความต้องการในทีอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น และนี่จึงเป็นเหตุผลทำให้อสังหาริมทรัพย์ราคามีแต่จะเพิ่มขึ้นนั่นเอง
ดังนั้นการกู้ซื้อบ้านก็อาจจะเป็นทางหนึ่งที่สามารถลดความเสี่ยงจากการเพิ่มขึ้นของราคาบ้านได้ เพราะราคาถูกกำหนดไว้ในปัจจุบันแล้ว เพียงแต่เราต้องเสียดอกเบี้ยให้กับธนาคารเท่านั้นเอง แล้วเราเคยรู้หรือไม่ว่ากว่าจะผ่อนบ้านเป็นสิบๆปีนั้น เราเสียดอกเบี้ยให้กับธนาคารไปเท่าไร และเราจ่ายเงินต้นไปเท่าไรบ้าง
บางคนอาจจะคิดแบบห้วนๆเลยคือ เอาอัตราดอกเบี้ย x ราคาบ้าน นั่นคือดอกเบี้ยที่เราเสีย เช่น บ้านราคา 1 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 6%
นั่นแปลว่าถ้าเรากู้ซื้อบ้านเราจะต้องเสียดอกเบี้ยให้ธนาคารทั้งหมด 60,000 บาท ซึ่งความจริงการคิดแบบนี้มันผิดอย่างมหันต์ !!
เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารคิดนั้นเป็นอัตราดอกเบี้ยต่อปีเดียว แต่เราผ่อนตั้ง 30 ปี เราคิดแบบนั้นไม่ได้ ยกเว้นเสียแต่เราโปะจนหมดภายในปีเดียวได้ ดังนั้นสรุปถ้า
เราเสียดอกเบี้ยปีละ 60,000 บาทแปลว่า 30 ปีเราต้องเสียดอกเบี้ยทั้งหมด 60,000 x 30 ปี = 1,800,000 บาท คิดแบบนี้มันก็ไม่ใช่อีกนั่นแหละ
เพราะการผ่อนธนาคารมักจะคิดแบบลดต้นลดดอก นั่นคือที่เราเสียค่าผ่อนทุกเดือนนั้นจะเป็นเงินต้นส่วนหนึ่งและเป็นดอกเบี้ยส่วนหนึ่ง ซึ่งการกู้ปีแรกๆเราจะเสียดอกเบี้ยเยอะมาก (เพราะเงินต้นยังสูงอยู่) เรามาลองยกตัวอย่างกันดีกว่าเพื่อความเข้าใจ
สมมติเรากู้ซื้อบ้านราคา 2,000,000 บาท
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 6% ต่อปี
ระยะเวลากู้ 30 ปี
คำนวณออกมาแล้วเราจะต้องผ่อนเดือนละ 11,991 บาท
ลองคิดดูถ้าเราผ่อน 30 ปี เราจะต้องจ่ายเงินรวมทั้งสิ้น = 4,316,760 บาท
พระเจ้า ! ซื้อบ้านราคา 2 ล้านบาทได้อีก 1 หลังเลยนะเนี่ย
นั่นก็เพราะยิ่งผ่อนนานมันก็เหมือนยืดระยะเวลาหนี้ออกไปอีก
ดังนั้นเราจะหลีกเลี่ยงมันยังไงล่ะ ?
คำตอบก็คือ การโปะ ยังไงล่ะ !!!
โหยพี่ ลำพังค่าผ่อนแต่ละเดือนผมก็ไม่พอจะโปะแล้ว
ถ้าใครเจอสถานการณ์นี้คุณต้องรีบเลยนะครับ รีบอะไรน่ะหรือ ?
รีบพัฒนาตนเองยังไงล่ะ เช่น หาอาชีพเสริมทำ ประหยัดมากขึ้น หรือพัฒนาความรู้และผลงานเพื่อที่จะมีโอกาสขึ้นเงินเดือนสูงขึ้น ซึ่งล้วนแล้วสามารถสร้างชีวิตที่ดีขึ้นกับเราได้ทั้งนั้น แต่ทั้งนี้มันขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าประหยัดขึ้น VS พัฒนาตนเอง แบบไหนเราถนัดกว่ากัน
มาเข้าเรื่องการโปะ !! ด้วยตัวอย่างเดิมบ้าน 2 ลบ. ดอกเบี้ย 6%ต่อปี ระยะเวลากู้ 30 ปี
แต่เราโปะเข้าไปอีกเป็นเดือนละ 12,991 บาท (เพิ่มขึ้นอีกเดือนละ 1,000 บาท)
ผลที่ตามมา คือ
1. คุณจะมีภาระผ่อนเหลือเพียง 25 ปีกว่าๆเท่านั้น
2. ใน 25 ปีกว่าๆนั้นเราจะเสียเงินค่าผ่อนบ้านไปทั้งสิ้น = 3,975,246 บาท
ประหยัดกว่าผ่อน 30 ปีถึง 341,514 บาทเลยทีเดียว สุดยอดมั๊ยล่ะ !!!
เห็นมั๊ยแค่เพิ่มการผ่อนอีกเดือนละ 1,000 บาทก็สามารถร่นระยะเวลาผ่อนเหลือ 25 ปีกว่าๆเท่านั้น
แถมประหยัดค่าผ่อนไปอีกหลายแสนบาทเลยทีเดียว นั่นก็เพราะ 1,000 บาทที่เราโปะเข้าไปนั้นเราจ่ายเป็นเงินต้นล้วนๆนั่นเอง
ไหนเราลองมาโปะเพิ่มอีกสัก 1,000 บาท เป็นผ่อนเดือนละ 13,991 บาท
ผลที่ตามมา คือ
1. คุณจะมีภาระผ่อนเหลือเพียง 22 ปีเท่านั้น
2. ใน 22 ปีนี้เราจะเสียเงินค่าผ่อนบ้านไปทั้งสิ้น = 3,693,624 บาท
ประหยัดกว่าตอนผ่อน 25 ปีถึง 281,622 บาท
และประหยัดกว่าตอนผ่อน 30 ปีถึง 623,136 บาท สุดยอดดด !!!
ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือเจ้าของกิจการเล็กๆก็ตามที่กำลังผ่อนบ้านอยู่ลองเจียดเงินเล็กน้อยในแต่ละเดือนมาโปะค่าผ่อนบ้านกันเถอะครับ ชีวิตคุณจะดีขึ้นอีกเยอะเลยครับ
แถมการคิดแบบละเอียดแบบเปรียบเทียบ
แบบ A ผ่อนเดือนละ 11,991 บาท 30 ปี
แบบ B ผ่อนเดือนละ 13,991 บาท 22 ปี
มันประหยัดตรงไหน ?
แบบ A เสียค่าผ่อนบ้านตลอด 30 ปีทั้งสิ้น
4,316,760 บาท
แบบ B เสียค่าผ่อนบ้านตลอด 22 ปีทั้งสิ้น
3,693,624 บาท
- แบบ B เราโปะเพิ่ม 2,000 บาทตลอด 22 ปีรวมเป็นเงินที่เสียเพิ่มเข้าไป 528,000 บาท และเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินต้นล้วนๆที่รวมอยู่ใน 3,693,624 บาทแล้วนั่นเอง ยิ่งเงินต้นลดลงดอกเบี้ยก็ลดลงเรื่อยๆ ระยะเวลาผ่อนก็ลดลงเช่นกัน